นิทานอาเซียน ประเทศพม่า
เรื่องหุ่นทั้งสี่
ครั้งหนึ่งมีช่างทําหุ่นและภรรยา ทั้งคู่มีบุตรชายชื่อ อ่อง วันหนึ่งอ่องตัดสินใจจะออกจากบ้านเพื่อ
เที่ยวแสวงหาโชคในแดนไกล เมื่อบิดาอนุญาตแล้ว อ่องก็เตรียมตัวเดินทาง มารดาจัดหาอาหารที่จะเก็บ
เอาไว้ได้นานวันให้เอาไปกินตามทาง บิดาก็ให้หุ่นไปสี่ตัวเพื่อเก็บเอาไว้เป็นเพื่อนและไว้ช่วยเหลือกันตามทาง
หุ่นตัวแรกแกะเป็นชาวสวรรค์ ให้ชื่อว่า "เทวา "แต่งด้วยเสื้อขาวสะอาดแกมสีทองห้อยยาวเป็นจีบ
พริ้วเหมือนปุยเมฆ หุ่นตัวที่สองแกะเป็นยักษ์ใหญ่ให้ชื่อว่า "ยักขา" มีเกล็ดสีเขียวมรกตห่อหุ้มทั่วร่างกาย มี
อินทนูเหมือนแหลมทอง แหลมเปี๊ยบงอกออกมาจากไหล่ทั้งสองและจากศอกทั้งสอง หุ่นตัวที่สามแกะเป็น
ครึ่งคนครึ่งเทพให้ชื่อว่า "ซอคะยี" สีกายแดงเป็นประกายดังเพลิงปนด้วยจุดสีทอง หุ่นตัวสุดท้ายแกะเป็น
ดาบสให้ชื่อว่า "เขมะ" ใส่เสื้อยาวเรียบ ๆ ถือไม้เท้ายาวและอุ้มบาตร
พอเตรียมตัวเสร็จ อ่องก็คุกเข่าลงเบื้องหน้าบิดามารดา พนมมือทั้งสองเป็นรูปดอกบัวตูม ก้มศีรษะ
ลงไหว้บิดามารดาสามครั้ง บิดามารดาก็อวยชัยให้พร แล้วอ่องก็ออกเดินทาง คอนไม้ไผ่ลําแข็งแรงลําหนึ่งไว้
บนไหล่ ปลายไม้ข้างหนึ่งคล้องห่อเสื้อผ้าอาหาร อีกข้างคล้องหุ้นทั้งสี่ตัวไว้
วันแรกของการเดินทางนั้น เมื่อเงามืดยามเย็นเริ่มปกคลุมพื้นดิน อ่องรู้สึกว่าตัวเขากําลังเดินอยู่ใน
ป่าอันมืดครึ้ม เขามองหาถิ่นที่จะพักแรมในตอนกลางคืน เห็นพื้นดินใต้ร่มไทรต้นหนึ่งน่าสบายนัก แต่อ่องก็
หันไปหารือเทวาก่อนว่า ควรจะพักนอนตรงนั้นหรือไม่ เขาตะลึงเพราะอัศจรรย์ใจที่เทวามีชีวิตขึ้นมาต่อหน้า
ต่อตา พูดกับเขาด้วยน้ําเสียงอันเมตตาว่า "อ่องเอ๋ย เจ้าต้องใช้นัยน์ตาของเจ้า แล้วคิดเอาเองเถิด"อ่องเหลียวมองรอบ ๆ อย่างพินิจพิเคราะห์ ก็แลเห็นรอยเท้าเสือใต้ต้นไทร เขาจึงเลิกคิดที่