本研究は、タイ語母話者の日学習を対象とし以下1、2、3、4を明らかにし

本研究は、タイ語母話者の日学習を対象とし以下1、2、3、4を明らかにし、5について考察することを目的。
1. 大学で日本語を専攻しているタイ語母語話者の学習者は日本語の対のある自他動詞をどの程度理解しているか。
2. 日本語の能力が上がるにつれて、対のある自他動詞の習得の度合はどのように変わるか。
3. 誤用の多い対のある自他動詞はどのようなものか、なぜ誤用が起きるのか。
4. 自他動詞の使用は母語話者による使用とどのように異なるか。
5. 対のある自他動詞の理解を定着させるために、教授する際に留意すべき点は何か。

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กระดาษไทยแม่พูด เรียนการกำหนดเป้าหมายน้อย และ 1, 2, 3, 4 พิจารณาวัตถุประสงค์ 5ประเทศไทยท้องถิ่นวิทยาลัย majoring ในญี่ปุ่นญี่ปุ่นเรียนตัวกริยาคู่ในญี่ปุ่นจะเข้าใจว่าอย่างไร2. ระดับของตัวเองอื่น ๆ กริยาคู่เพิ่มความสามารถของญี่ปุ่นเพื่อเรียนรู้วิธีเปิด3. มักจะมีการนำไปใช้ arebest สำหรับ หรือว่ามันคืออะไรเช่น ทำไมไม่ละเมิดเกิดขึ้น4. ใช้ arebest ที่ใช้ โดยเจ้าของภาษา และแตกต่างกันอย่างไร5. จุดที่ควรทราบเมื่อการเรียนการสอนเพื่อความเข้าใจของตนเองและผู้อื่นกริยาคู่ entrench คืออะไร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะเปิดเผย 1, 2, 3, 4 หรือตั้งใจน้อยสำหรับการเรียนรู้ลำโพงแม่ของไทยในวันนี้ก็จะได้รับการพิจารณา 5
1. ผู้เรียนจากเจ้าของภาษาไทยที่มีวิชาเอกภาษาญี่ปุ่นของมหาวิทยาลัยมีขอบเขตที่ความเข้าใจของคำกริยาตนเองสกรรมกริยากับคู่ของญี่ปุ่น
2. ขณะที่ญี่ปุ่นของกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นของระดับของการเรียนรู้ของตนเองสกรรมกริยากับคู่ของการเปลี่ยนแปลงที่
3. ในทางที่ผิดของคำกริยาตนเองสกรรมกริยาหลายคนที่มีคู่ของอะไร, ทำไมการละเมิดเกิดขึ้น
4. การใช้คำกริยาตนเองสกรรมกริยาและการใช้งานโดยเจ้าของภาษาวิธีที่แตกต่าง
5. เพื่อแก้ไขความเข้าใจของคำกริยาตนเองสกรรมกริยากับคู่ที่สิ่งที่เป็นจุดที่จะเก็บไว้ในใจเมื่อการเรียนการสอน